วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

10/07/2010

ตื่นแต่เช้าไปขึ้นรถที่คณะ ออกเดินทางไปสระบุรี...
@ บ้านเขาแก้ว
บ้านของอ.ทรงชัย วรรณกุล
เป็นบ้านที่มีบรรยากาศของอดีต มีมรดกทางวัฒนธรรมจากคนรุ่นเก่าที่คนรุ่นใหม่อย่างเราๆควรจะอนุรักษ์เอาไว้ เป็นทั้งที่เรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ ที่มีแต่ของอดีต ที่จะเป็นของใหม่ก็คือกระเบื้องเท่านั้น เป็นบ้านที่มีอายุ 100 กว่าปี มีความเรียบง่าย ธรรมชาติ น้ำ สิ่งแวดล้อมและความเงียบสงบ แต่เดิมเป็นท้องนา   แล้วอ.ทรงชัยก็ซื้อบ้านเก่า มาทำเป็นเรือนหมู่ ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพชนสร้างมา แสดงถึงลักษณะเฉพาะของความเป็นไทย
อ.ทรงชัย เจ้าของบ้าน ที่เห็นถึงคุณค่าของไทย

บรรยากาศของบ้านไทย ที่มีความร่มรื่น เขียวขจี น่าอยู่

ลักษณะของบ้านไทยในสมัยก่อน มีบ้าน มีลานดิน เวลาฝนตกน้ำก็จะซึมลงลานดิน ดินก็จะอุ้มน้ำ เกิดความชุ่มชื้นให้แก่ดินมีความเย็นพัดเข้าสู่ตัวบ้าน เป็น open space ที่เป็นส่วน  domestic ของบ้านไทย ไม่ใช่เป็นลานคอนกรีตเพิ่มความร้อนเหมือนในปัจจุบัน และมีการปลูกไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิม เป็นองค์ประกอบของวิถีชีวิต

อ.ทรงชัยได้กล่าวว่า "ขอให้เรามีความเป็นไทย รักเมืองไทย" เป็นคำกล่าวที่ครอบคลุมในทุกเรื่องจริง ๆ


เดินไปข้ามไปฝั่งตรงข้ามก็เจอพิพิธภัณฑ์ไทยวน..
@ พิิพิธภัณฑ์ไทยวน
การนำภูมิปัญญาของบรรพชนมา่ใช้ และยังอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

กระบวนการในการออกแบบ
การวางอาคารไม่เป็นไปตามประเพณีไทย แต่จัดวางโดยการใช้งานของปัจจุบันที่ต้องการใช้  เพราะต้องการมุมมองในด้านของสระน้ำ และต้นไม้ที่มีอยู่เดิม เพราะเงาของต้นไม้ที่ทอดลงมานั้นก็สามารถบังแดดให้ลานตรงกลางได้ และอ.จิ๋วได้กล่าวถึงคำว่า hidden ซึ่งหมายความว่า มีหลาย function ที่อยู่ในที่เดียวกัน พื้นที่ตรงกลางก็สามารถสลับการใช้งานได้ เช่น การใช้เล่นดนตรีไทย ที่ต้องการมองมุมที่สูง ก็มีพื้นที่ด้านบน มีบันได แต่ถ้าฟ้อนรำก็จะมองมุมตรง ซึ่งก็จะมีพื้นที่ด้านล่างที่ต่อเนื่องไปกับริมน้ำ

บรรยากาศบริเวณลานโล่ง
การออกแบบ

มีการวางสัดส่วนของแต่ละอาคารที่ลงตัว โครงสร้างไม้ยังสามารถนำมาต่อกันได้ มีขนาดเป็นมาตรฐาน และเนื่องจากอาคารอยู่ริมตลิ่งที่มีลักษณะชัน ก็เลยยกอาคารให้สูงขึ้น มีศาลาโล่ง และมีการวางกลุ่มอาคารที่สามารถเชื่อมต่อกันในแต่ละส่วนได้ มีการเล่นระดับ การใช้ร่มเงาจากร่มไม้และธรรมชาติมาสอดแทรกกับลาน ทำให้เกิดบรรยากาศ และการกำหนดพื้นที่ด้วยระนาบ ทำให้เกิดความโปร่งโล่ง เย็นสบาย 
ซึ่งในทุกวันเสาร์ที่นี่ก็จะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟ้อน ตีกลอง ที่สืบทอดกันมากว่า 100 ปี เด็กๆก็จะมาทำกิจกรรมกัน ทำให้เกิดวัฒนธรรมที่ดีงาม น่าอนุรักษ์



ก่อนกลับกรุงเทพฯ ก็แวะกินแวะช้อปก่อนเล็กน้อย
บะหมี่เป็ด 25 บาท อร่อยมั่ก ๆ

บรรยากาศเมืองสระบุรี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น