วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

29/07/2010




วันนี้ออกเดินทางแต่เช้าเช่นเคย แต่วันนี้พิเศษกว่าคือจะไปจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ที่มีเมืองลับแล ฟังตอนแรกเข้าใจว่าเมืองลับแลน่าจะเป็นเมืองที่มีบรรยากาศน่ากลัว อึมครึม ฟังดูเหมือนลึกลับ(เพราะฟังจากชื่อ) แต่ก่อนหน้านั้นก็แวะไปดูชุมชนพื้นถิ่นก่อน

@ ชุมชนบ้านไผ่เขียว ต.ไผ่ล้อม อุตรดิตถ์



บ้านพื้นถิ่นแต่ละหลัง ล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน บางหลังก็มีผนังที่เก๋ บางหลังก็มีสวนสวย หรือบางหลังก็มีรั้วที่แปลกตา แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ที่มาจากช่างหรือชาวบ้าน
บริเวณใต้ถุนบ้าน การวางไม้ที่เป็นระเบียบ ทำให้เกิดความงาม

ได้เวลาขึ้นรถไปเมืองลับแล...เค้าว่ากันว่าเป็นเมืองที่ต้องพูดแต่ความจริง แล้วเราก็มุ่งตรงสู่วัดดอนสัก

@ วัดดอนสัก อ.ลับแล ต.ฝายหลวง อุตรดิตถ์
เมืองลับแลเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการมีผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์ของภาคเหนือ มีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม มีสายน้ำไหลผ่าน และวัดดอนสักก็เช่นกัน มีการปลูกต้นไม้ร่มรื่นทั้งวัด ทำให้บรรยากาศนั้นแสนจะเย็นสบาย มองไปมีแต่สีเขียวของธรรมชาติตัดกับสีน้ำตาลของดิน


วันนี้อ.ไก่ก็ได้ซื้อของมาทำบุญที่วัดเป็น เทียนพรรษา หรือจะเรียกให้ถูกก็คงเป็นหลอดไฟพรรษา ทำบุญร่วมกันกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ และอาจารย์หลาย ๆคน ก็อิ่มบุญไปตาม ๆ กัน (ต้องขอบคุณอ.ไ่ก่ด้วยค่ะ)
พูดถึงโครงสร้างของวัดดอนสัก โครงสร้างหลังคาและบานประตูนั้นทำมาจากไม้ มีการโชว์โครงสร้างภายใน และลายประตูก็มีการเล่นลวดลายวิจิตรพิสดาร ซึ่งบานประตูนั้นเคยถูกขโมยไป ทำให้องค์ประกอบของวัดนี้ไม่สมบูรณ์ เพราะจุดเด่นของวัดนี้ก็คือลวดลายประตู 

ลวดลายประตูเหมือนดักแด้ขมวดใบหม่อน
 ในการก่อสร้าง ช่างก่อสร้างก็มีการคิดลวดลายกับโครงสร้างไปพร้อม ๆ กัน คิดอย่างมีสัดส่วนที่ให้อาคารดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ภูมิทัศน์โดยรอบวัด มองออกไปก็เห็นท้องนา มีสวนผลไม้หลายร้อยปี มีความร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ เรียกว่า Garden city คืออยู่กันคนละสวน แต่ก็สามารถเดินถึงกันได้หมด

ความร่มรื่นของวัดดอนสัก
หลังจากทำบุญและได้รับความรู้มาเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไปชุมชนพื้นถิ่น...

ต้นไม้ที่เป็นจุดนำสายตาเข้าสู่ตัวบ้าน
 หลังจากนั้นก็เดินทางกลับสุโขทัย และเตรียมตัวลุยต่อวันพรุ่งนี้ 






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น